เพียงเพราะกลัวเลือดจึงเป็นอุปสรรคให้เขาไม่สามารถเรียนหมอได้ แต่ใช่ว่าเขาจะละความพยายามไป อีกหนึ่งทางเลือกที่เขาจะ
สามารถรักษาคนไข้ได้ นั่นคือการเป็นทันตแพทย์
คูณ-คณิน บัดติยา |
คูณ-คณิน บัดติยา |
คูณ-คณิน บัดติยา |
"จากนั้นผมไปปรึกษาญาติ ๆ ว่าผมอยากเรียนหมอแต่ว่ากลัวเลือด จะเรียนคณะไหนได้บ้าง พี่ ๆ แนะนำมาว่าให้เรียนทางด้านทันตแพทย์ จะได้เรียนอยู่ในพื้นที่จำกัด คือ ช่องปาก อาจจะเจอเลือดน้อยกว่าเรียนแพทยศาสตร์ครับ หลังจากนั้นผมเอ็นทรานซ์ใหม่อีกครั้ง เลือกเรียนทันตแพทย์ แต่ไม่ได้เลือกที่ม.ขอนแก่นแล้ว เพราะทางบ้านเดินทางมาหาลำบาก อยากให้เรียนที่ใกล้ ๆ แต่พี่ผมเรียนที่มช.แล้ว เห็นมาตั้งแต่เด็ก ไม่อยากไปเรียนที่นั่น คุณพ่อคุณแม่เขาให้ทางเลือกมาว่าจะเรียนที่กทม.ก็ได้ ผมเลยตัดสินใจมาสอบเข้าคณะทันตแพทย์ ม.รังสิต"
"ถามว่าเสียดายมั้ย เสียดายเหมือนกันครับ หนึ่งปีในม.ขอนแก่นสร้างประสบการณ์ในการใช้ชีวิตแบบใหม่ให้กับผมเยอะมาก แต่ว่าผมต้องแลกกับความสุขในการเรียน เพราะผมรู้ว่าผมไม่ได้ชอบจริง ๆ ควรเรียนในสิ่งที่เราชอบดีกว่า การเรียนทันตแพทย์ ไม่ได้สวยหรูอย่างที่เราคิด แต่สามารถเรียนได้ครับ ไม่มีปัญหา เจอเลือดน้อยครับ (หัวเราะ) บุคลิกภาพเราต้องดูน่าเชื่อถือ จะเล่นมากไม่ได้ ต้องทำตัวให้พร้อมอยู่เสมอ"
ตอนนี้เรียนกำลังจะขึ้นปี 5 เรียนหนักมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน นอกจากนี้เขายังแปลนอนาคตของตัวเองไว้ว่าจะขอทำหน้าที่หมอฟัน รักษาคนไข้ตามที่ฝันเอาไว้
"ปี 1-3 เรียนวิชาที่นักศึกษาแพทย์เรียนทั้งหมดครับ พอขึ้นปี 4 จะแยกเรียนตามสาขาของแต่ละคน ของผมเรียนเกี่ยวกับคนไข้เฉพาะช่องปาก ดูเรื่องฟันเต็มที่ครับ ใช้ระยะเวลา 1 ปีสำหรับเรียนทฤษฎี พอขึ้นปี 5-6 จะลงคลินิกแล้วครับ"
"ผมวางแผนอนาคต ต้องเรียนให้สำเร็จภายใน 6 ปี ถ้าเรียนจบแล้วอยากทำงานในโรงพยาบาลสักระยะหนึ่งก่อน ตอนนี้เรียนหมอไม่ต้องใช้ทุนแล้วครับ พอให้เรามีประสบการณ์มากขึ้น ส่วนต่อไปจะเรียนต่อหรือเปิดคลินิก ตอนนั้นค่อยคิดอีกที แต่ถึงอย่างไรผมไม่ทิ้งอาชีพนี้แน่นอน แม้จะเข้ามาทำงานในวงการ เพราะความมุ่งมั่นของผมคือเป็นทันตแพทย์"
สุดท้ายในฐานะเป็นรุ่นพี่ที่เคยมีประสบการณ์การสอบเข้ามหาวิทยาลัย คูณให้คำแนะนำน้อง ๆ ว่า
"ช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ สามารถพลิกชีวิตเราได้เลย เราเหนื่อยเพียงแค่อึดใจเดียวเอง แต่ต้องรู้ว่าร่างกายเราไหวหรือเปล่าด้วย จุดมุ่งหมายเราเป็นอย่างไร ต้องพยายามให้ถึงจุด ๆ นั้น วันที่ประกาศแล้วมีรายชื่ออยู่ในนั้น วันนั้นเป็นวันแห่งการดีใจ ไม่ใช่แค่เราคนเดียว แต่รวมถึงคนรอบข้างเราด้วย อนาคตอยู่ตรงหน้าตั้งใจไขว่คว้ามาให้ได้ครับ ขอให้น้อง ๆ ทุกคนโชคดี"
แน่นอนว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเราจะมี "ทันตแพทย์คณิน" หมอฟันสุดหล่อมารักษาฟัน งานนี้สาว ๆ เข้าคิวรอเพียบ!!
"ถามว่าเสียดายมั้ย เสียดายเหมือนกันครับ หนึ่งปีในม.ขอนแก่นสร้างประสบการณ์ในการใช้ชีวิตแบบใหม่ให้กับผมเยอะมาก แต่ว่าผมต้องแลกกับความสุขในการเรียน เพราะผมรู้ว่าผมไม่ได้ชอบจริง ๆ ควรเรียนในสิ่งที่เราชอบดีกว่า การเรียนทันตแพทย์ ไม่ได้สวยหรูอย่างที่เราคิด แต่สามารถเรียนได้ครับ ไม่มีปัญหา เจอเลือดน้อยครับ (หัวเราะ) บุคลิกภาพเราต้องดูน่าเชื่อถือ จะเล่นมากไม่ได้ ต้องทำตัวให้พร้อมอยู่เสมอ"
ตอนนี้เรียนกำลังจะขึ้นปี 5 เรียนหนักมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน นอกจากนี้เขายังแปลนอนาคตของตัวเองไว้ว่าจะขอทำหน้าที่หมอฟัน รักษาคนไข้ตามที่ฝันเอาไว้
"ปี 1-3 เรียนวิชาที่นักศึกษาแพทย์เรียนทั้งหมดครับ พอขึ้นปี 4 จะแยกเรียนตามสาขาของแต่ละคน ของผมเรียนเกี่ยวกับคนไข้เฉพาะช่องปาก ดูเรื่องฟันเต็มที่ครับ ใช้ระยะเวลา 1 ปีสำหรับเรียนทฤษฎี พอขึ้นปี 5-6 จะลงคลินิกแล้วครับ"
"ผมวางแผนอนาคต ต้องเรียนให้สำเร็จภายใน 6 ปี ถ้าเรียนจบแล้วอยากทำงานในโรงพยาบาลสักระยะหนึ่งก่อน ตอนนี้เรียนหมอไม่ต้องใช้ทุนแล้วครับ พอให้เรามีประสบการณ์มากขึ้น ส่วนต่อไปจะเรียนต่อหรือเปิดคลินิก ตอนนั้นค่อยคิดอีกที แต่ถึงอย่างไรผมไม่ทิ้งอาชีพนี้แน่นอน แม้จะเข้ามาทำงานในวงการ เพราะความมุ่งมั่นของผมคือเป็นทันตแพทย์"
สุดท้ายในฐานะเป็นรุ่นพี่ที่เคยมีประสบการณ์การสอบเข้ามหาวิทยาลัย คูณให้คำแนะนำน้อง ๆ ว่า
"ช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ สามารถพลิกชีวิตเราได้เลย เราเหนื่อยเพียงแค่อึดใจเดียวเอง แต่ต้องรู้ว่าร่างกายเราไหวหรือเปล่าด้วย จุดมุ่งหมายเราเป็นอย่างไร ต้องพยายามให้ถึงจุด ๆ นั้น วันที่ประกาศแล้วมีรายชื่ออยู่ในนั้น วันนั้นเป็นวันแห่งการดีใจ ไม่ใช่แค่เราคนเดียว แต่รวมถึงคนรอบข้างเราด้วย อนาคตอยู่ตรงหน้าตั้งใจไขว่คว้ามาให้ได้ครับ ขอให้น้อง ๆ ทุกคนโชคดี"
แน่นอนว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเราจะมี "ทันตแพทย์คณิน" หมอฟันสุดหล่อมารักษาฟัน งานนี้สาว ๆ เข้าคิวรอเพียบ!!
0 comments:
Post a Comment